iPhone 12 เลื่อนเปิดตัวออกไปอีกจริงหรอ พร้อมหลุดสเปค | ราคา หลุดมาเรื่อยๆ จนกว่าจะเปิดตัว

แอดมินเชื่อว่าทุกคนรอคอยการเปิดตัวของสุดยอดสมาร์ทโฟน iPhone 12 แต่ก็มีข่าวออกมาเรื่อยๆ ว่าจะมีการเลื่อนการเปิดตัวออกไป ออกไปอีก ออกไปอีกนิดนึง

" ข่าวจากเว็บไซต์ Digitimes กล่าวว่า iPhone 12 ทุกรุ่นจะเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้ตามปกติ ไม่ได้เลื่อนไปเปิดตัวเดือนตุลาคมแน่นอน เนื่องจากว่า Apple ต้องเจอคู่แข่งฝั่ง Android ที่ดุเดือดมากส่งผลให้ราคาของ iPhone 12 เวอร์ชั่น 5G ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการซื้อปีนี้ " 

ล่าสุด Luca Maestri ผู้อำนวยการสายการเงิน (CFO) ของ Apple ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า " iPhone 12 จะเปิดตัวช้ากว่าปกติเล็กน้อยประมาณ 2-3 สัปดาห์ " ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับในปี 2019 ที่ทาง Apple เปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ในวันที่ 20 กันยายนนั้น ทำให้คาดการณ์ได้ว่า iPhone 12 อาจเปิดตัวในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2020 นั่นเอง

พร้อมหลุดสเปค หลุดมาเลื่อยๆ หลุดจนกว่าจะเปิดตัว

ข่าวหลุดออกมาว่าจะมีทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน iPhone 12, iPhone 12 Plus/Max, iPhone 12 Pro, iPhone Pro Max มี 3 ขนาดหน้าจอให้เลือก และจะแยกย่อยเป็น 4 รุ่น รวมถึงจะรองรับเทคโนโลยี 5G ทุกรุ่นด้วย ในส่วนของสเปคจอและความละเอียดที่จะใช้ใน iPhone 12 Series นั้น MacRumors ได้รายงานข้อมูลจาก Ross Young ที่ได้คาดการณ์สเปกหน้าจอของ iPhone ทั้งหมด 4 รุ่น โดยนักวิเคราะห์เผยว่าข้อมูลนี้มาจาก DSCC ซึ่งเป็นแหล่งที่น่าเชื่อถือ ได้รายงานเกี่ยวกับสเปคหน้าจอที่จะใช้ในแต่ละรุ่นดังนี้

• iPhone 12 รุ่นขนาดจอ 5.4 นิ้ว จะใช้จอ OLED ขนาด 5.4 นิ้ว ผลิตโดย Samsung ซึ่งเป็นจอแบบ Y-OCTA ที่มีเซ็นเซอร์สัมผัสหน้าจอรวมอยู่ที่ตัวหน้าจอเลย โดยไม่มีการแยกชั้นเหมือนกับจอ OLED แบบปกติ ความละเอียดของจอนั้นจะอยู่ที่ 2340 x 1080 พิกเซล 475 ppi
• iPhone 12 Plus/Max รุ่นขนาดจอ 6.1 นิ้ว จะใช้จอ OLED ที่ผลิตโดย BOE และ LG ซึ่งมีเซ็นเซอร์สัมผัสหน้าจอรวมอยู่ที่ตัวหน้าจอเช่นกัน โดยความละเอียดของจอนั้นจะอยู่ที่ 2532 x 1170 พิกเซล 460 ppi
• iPhone 12 Pro รุ่นขนาดจอ 6.1 นิ้ว นักวิเคราะห์ Young เผยว่าจะใช้จอ OLED ที่ผลิตโดย Samsung ทั้งนี้ iPhone รุ่นนี้จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้จอสีแบบ 10-bits ช่วยให้จอมีความสว่าง สีสันสมจริงกว่าเดิม และไล่เฉดสีที่หลากหลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ iPhone 12 Pro รุ่นขนาดจอ 6.1 นิ้วนั้นอาจไม่มีเทคโนโลยี Y-OCTA แต่ Young ก็ได้เผยว่า Apple จะนำ XDR มาใช้ ซึ่งจะช่วยให้ความสว่างสูงสุดอาจสูงถึง 1,600 nits ส่วนความละเอียดนั้นจะอยู่ที่ 2532 x 1170 พิกเซล 460 ppi
• iPhone 12 Pro Max รุ่นขนาดจอ 6.7 นิ้ว จะมาพร้อม Y-OCTA สี 10-bits มี XDR เหมือนไอโฟน 12 Pro มีจอ ProMotion 120Hz แต่ไม่มี LTPO ส่วนความละเอียดนั้นจะอยู่ที่ 2778 x 1284 พิกเซลที่ 458 ppi

ทางด้าน EverythingApplePro ได้เผยวิดีโอโดยอ้างอิงข้อมูลจาก Max Weinbach เกี่ยวกับ iPhone รุ่นทั่วไปและรุ่น  Pro หลายประเด็น จุดสำคัญอยู่ที่ในรุ่น Pro นั้นได้รับการอัพเกรดค่อนข้างมาก สรุปสิ่งที่น่าสนใจจากรายงานของ EverythingApplePro ไว้ดังนี้

• iPhone รุ่นใหม่ปลายปี 2020 ใช้ชื่อรุ่นเป็น 12 (5.4″) / 12 Plus (6.1″) / 12 Pro (6.1″) / 12 Pro Max (6.7″)
• ในรุ่น Pro / Pro Max จะใช้จอ ProMotion 120Hz
• สี Navy Blue คือสีใหม่ อาจมาแทน Midnight Green ในรุ่น Pro
• iPhone ทุกรุ่นอาจมีความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับ 5G และ ProMotion ในรุ่น Pro และแบตเตอรี่ในรุ่น Pro Max อาจมีความจุมากถึง 4,400 mAh
• iPhone 12 / 12 Plus ใช้กล้องหลัง 2 ตัว ส่วนรุ่น Pro / Pro Max ใช้กล้องหลัง 3 ตัวพร้อม LiDAR Scanner
• ในรุ่น Pro / Pro Max กล้องหลัง 3 ตัว จะมี LiDAR Scanner อยู่ที่ล่างขวา
• ในรุ่น Pro / Pro Max ไม่มี Smart Connector เหมือนภาพ CAD ก่อนหน้า
• มาพร้อม Face ID รุ่นใหม่ รองรับการสแกนหน้าได้หลายมุมมองและกว้างกว่าเดิม
• ปรับปรุงฟีเจอร์กล้องหลายอย่าง ได้แก่
  • ปรับปรุงการถ่ายภาพในที่แสงน้อยมากว่าเดิม โฟกัสเร็วขึ้น
  • Smart HDR ปรับปรุงให้ลด Noise และการถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้ดีขึ้น
  • LiDAR Scanner ในรุ่น Pro ช่วยให้ถ่ายภาพ Portrait ได้ดีขึ้น
  • กล้อง Telephoto ในรุ่น Pro ซูมได้ 3x

ในด้านของชิปประมวลผลนั้น ผู้ใช้ Twitter นามว่า Komiya ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ Apple ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับชิปประมวลผล Apple A14 ที่จะถูกใส่มาใน iPhone 12 นั้นว่ามีความแรงของ CPU เพิ่มขึ้นถึง 40% และความเร็วของ GPU เพิ่มขึ้นสูงถึง 50% เมื่อเทียบกับชิปประมวลผล Apple A13 Bionic นอกจากนี้ยังมีชิปประมวลผล A14X ที่จะแรงยิ่งขึ้นไปอีก โดยชิป A14X นั้นก็มีข่าวลือว่าจะติดตั้งอยู่ใน iPad Pro รุ่นถัดไป

ทางด้านดีไซน์ หลายๆคนก็อยากรู้ว่าจะเป็นแบบไหน จะเหมือนเดิมอีกมั้ย

ด้านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @Jin_Store ได้เผยภาพถ่ายโมเดลจำลองที่คาดว่าจะเป็นของ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro โดยข่าวลือก่อนหน้านี้เผยว่าจะมี 4 รุ่น 3 ขนาดหน้าจอ ได้แก่จอ 5.4 นิ้ว, 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว และภาพเครื่องจำลองนี้เองก็ได้ชี้ให้เห็นว่าตัวเครื่องนั้นจะใช้ทรงเดียวกับ iPad Pro แต่จากที่เห็นตัวเครื่องยังมีรอยบากเท่าเดิม

Cr: @Jin_Store

Cr: @Jin_Store

ทางด้าน MacOtakara ก็ได้เผยวิดีโอพรีวิว Mockup ของ iPhone 12 ที่ประกอบไปด้วยรุ่นปกติ จอ 5.4 นิ้ว, 6 นิ้ว และรุ่น Pro จอ 6 นิ้ว, 6.5 นิ้ว โดยตัวเครื่องใช้ทรงเดียวกับ iPad Pro ในตัว Mockup ของรุ่นเริ่มต้นนั้นจะใช้กล้องหลัง 2 ตัว ส่วนในรุ่น Pro จะใช้กล้องหลัง 3 ตัว แต่ยังไม่มีการปรับพื้นที่สำหรับ LiDAR เหมือนข่าวลือก่อนหน้านี้ และยังมีข้อมูลในเรื่องของถาดใส่ซิม โดย MacOtakara ให้ข้อมูลว่า ถาดซิมนั้นจะย้ายจากด้านขวามาอยู่มุมด้านล่างซ้ายของตัวเครื่อง บริเวณด้านล่างของปุ่มปรับเสียง การย้ายถาดซิมนี้ คาดว่า เพื่อการปรับเสาสัญญาณใหม่เพื่อให้รองรับ 5G ตามข่าวลือที่เผยว่า iPhone รุ่นใหม่ปีนี้จะรองรับ 5G ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อนั้นเป็นไปได้ว่าจะยังเป็น Lightning เหมือนเดิม   คลิก: https://youtu.be/c0MiGw2k3r0

ทางด้าน ConceptsiPhone แชนแนลดังบน YouTube ได้เผยคลิปวิดีโอคอนเซ็ปต์ iPhone 12 Series ออกมาให้ชมกันอีกครั้ง โดยอ้างอิงข้อมูลจากข่าวลือก่อนหน้า ทั้งเรื่องของดีไซน์ สเปค รวมถึงจำนวนรุ่นที่คาดว่าจะเปิดตัวมากถึง 4 โมเดลในปี 2020 นี้เลยทีเดียว คลิก: https://youtu.be/3Dim4mXUX7Y

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั้นคือ กล้อง เป็นสิ่งที่สำคัยอย่างนึงเลยในยุคนี้

บัญชี Twitter ชื่อ @Choco_bit (เผยว่าเป็นอดีตพนักงาน AASP) อ้างอิงภาพมาจาก Concepts iPhone ได้ระบุว่าภาพร่างตัวนี้มาจาก iOS 14 โดยในภาพปรากฏให้เห็นว่ามีเลนส์กล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว คือ Wide, Ultra-Wide และ Telephoto เหมือนกับ iPhone 11 Pro แต่มีการจัดวางแบบใหม่ ให้มีพื้นที่สำหรับ LiDAR Scanner เหมือน iPad Pro 2020 ตัวล่าสุด

ส่วนทาง Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดัง รายงานว่า iPhone รุ่นถัดไปของ Apple จะมาพร้อมชุดเลนส์กล้องคุณภาพสูงระดับไฮเอนด์จาก Largan เพื่อปรับปรุงคุณภาพของ iPhone ทั้ง 4 รุ่น โดยผู้ผลิตเลนส์กล้องจะเริ่มจัดส่งส่วนประกอบในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2020 นี้ อย่างไรก็ตาม Kuo ก็ได้พบว่าการจัดส่งเลนส์กล้องนั้นเกิดความล่าช้าขึ้นประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับปีก่อนแล้ว แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าทำไมจึงมีการส่งมอบช้า แถมไม่ได้เปิดเผยด้วยว่า เลนส์กล้องระดับไฮเอนด์จาก Largan นั้นจะถูกนำไปใช้กับ iPhone ทั้ง 4 รุ่นเลย หรือแค่ในรุ่น Pro เท่านั้น

นอกจากนี้ Ming-Chi Kuo ยังได้เผยเกี่ยวกับเซ็นเซอร์กันสั่นของ iPhone รุ่นใหม่นี้ไว้ว่า iPhone รุ่นจอ 6.7 นิ้วปี 2020 จะเป็นรุ่นเดียวที่มีกันสั่นภาพที่ตัวเซ็นเซอร์ (Sensor-Shift Image Stabilization) ซึ่งจะแตกต่างกับที่ใช้อยู่ใน iPhone 11 Pro, 11 Pro Max ที่ใช้เป็นกันสั่นแบบออปติคอล ซึ่งจะถูกจำกัดอยู่แค่ในเลนส์ใดเลนส์หนึ่งเท่านั้น แต่กันสั่นที่ตัวเซ็นเซอร์นั้นจะสามารถใช้ได้ในทุกเลนส์ ไม่ว่าจะมีกล้องกี่ตัวก็ตาม

ขณะเดียวกันทาง EverythingApplePro และ Max Weinbach ได้รายงานข้อมูลที่เป็นสเปกกล้องของ iPhone 12 รุ่น Pro และ Pro Max ออกมาว่า ตัวกล้องจะรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 120fps และ 240fps โดย Weinbach อ้างว่าได้ข้อมูลส่วนหนึ่งมาจากโค๊ดของ iOS 14 แต่อย่างไรก็ตามการจะถ่ายวีดีโอ 4K ในปัจจุบันบน iPhone 11 และ iPhone 11 Pro นั้นถูกจำกัดความละเอียดเอาไว้ที่ 4K 60fps และ 1080p 240fps ซึ่งหากต้องการจะถ่ายวีดีโอ 4K ให้ดียิ่งกว่านี้จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับ iOS 14 ขึ้นไปเท่านั้น

หลุดสเปคมาแล้วก็ต้องหลุดราคามาด้วย และราคาก็เป็นส่วนนึงในการตัดสินใจซื้อ

นอกจากเรื่องสเปคแล้วอีกสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คือ ราคาขาย ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีใครรู้ราคาขายที่แน่นอน แต่ทว่าในบรรดาข่าวหลุดก็ได้มีราคาของทั้ง 4 รุ่นโผล่ขึ้นมาดังนี้

• iPhone 12
• ความจุ 128 GB ราคา $649 หรือประมาณ 21,000 บาท
• ความจุ 256 GB ราคา $749 หรือประมาณ 23,800 บาท

• iPhone 12 Plus/Max
• ความจุ 128 GB ราคา $749 หรือประมาณ 23,800 บาท
• ความจุ 256 GB ราคา $849 หรือประมาณ 26,900 บาท

• iPhone 12 Pro
• ความจุ 128 GB ราคา $999 หรือประมาณ 31,700 บาท
• ความจุ 256 GB ราคา $1,099 หรือประมาณ 34,900 บาท
• ความจุ 512 GB ราคา $1,299 หรือประมาณ 41,200 บาท

• iPhone 12 Pro Max
• ความจุ 128 GB ราคา $1,099 หรือประมาณ 34,900 บาท
• ความจุ 256 GB ราคา $1,199 หรือประมาณ 38,000 บาท
• ความจุ 512 GB ราคา $1,399 หรือประมาณ 43,000 บาท

สรุปสเปค iPhone 12 ที่คาดการณ์ไว้ตอนนี้

*สเปคดังกล่าวและข้อมูลทั้งหมดเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น ไม่ใช่สเปคของตัวเครื่องจริง ๆ

ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์: www.notebookspec.com

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ : https://qrgo.page.link/bZmCr